WTPT0083 : น่าน ปัว บ่อเกลือ สะปัน

น่าน ปัว บ่อเกลือ สะปัน

พาคุณเที่ยวชมมนต์เสน่ห์แห่งดินแดนทางภาคเหนือ

สัมผัสวัฒนธรรมประเพณี พร้อมเช็คอินที่เที่ยวตามรอยโซเชียลแบบเก๋ๆ

 

เที่ยวง่ายๆ สามารถออกเดินทางได้ทุกวัน รับประกันความประทับใจ เพียงจองกับเรา...The World Trips...Let's trip around the world

รหัสโปรแกรมทัวร์ : WTPT0083

สรุปโปรแกรมการเดินทาง

วันเดินทางโปรแกรมการเดินทางเช้ากลางวันเย็นโรงแรมที่พัก หรือ เทียบเท่า

วันแรก

สนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินน่าน - จังหวัดน่าน - เดอะวิว@กิ่วม่วง - ถนนหมายเลข 3 - บ่อเกลือสินเธาว์ - บ้านสะปัน - จุดชมวิว 1715 - วัดภูเก็ต

ฮัก ปัว โฮเทล หรือระดับเทียบเท่ากัน

วันที่สอง

กาแฟ บ้านไทลื้อ - วัดศรีมงคล (วัดก๋ง) - คาเฟ่ เฮือนฮังต่อ - พระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง - วัดศรีพันตัน - ซุ้มต้นลีลาวดีหรือต้นลั่นทม - วัดมิ่งเมือง - วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร - วัดภูมินทร์ - ถนนคนเดินเมืองน่าน

XNAMTHONGNAN HOTEL หรือระดับเทียบเท่ากัน

วันที่สาม

วัดพระธาตุเขาน้อย - สนามบินน่าน - สนามบินสุววรณภูมิ - กรุงเทพฯ

X-

รายละเอียดการเดินทาง

05.30 น.

พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ไกด์นำเที่ยวคอยให้การต้อนรับและอำนวยควาสะดวกในการเช็คอิน

07.20 น.

นำท่านเดินทางสู่ สนามบินน่าน โดย สายการบิน ไทยสไมล์ (WE) เที่ยวบินที่ WE156

08.35 น.

เดินทางถึง สนามบินน่าน จังหวัดน่าน หลังจากนั้นนำท่านเดินทางท่องเที่ยวตามรายการทัวร์

นำท่านเดินทางสู่ เดอะวิว@กิ่วม่วง เป็นคาเฟ่บนเชิงเขา ให้ท่านได้สัมผัสกับวิวของธรรมชาติของเมืองน่านแบบสุดลูกหูลูกตา พร้อมนั่งจิบเครื่องดื่มชิลๆ อิสระให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย

นำท่านถ่ายรูป ถนนหมายเลข 3 หรือถนนลอยฟ้า ปัว-บ่อเกลือ-สันติสุข เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่สวยงาม และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวในการแวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ระหว่างการเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดน่าน

เที่ยง

บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร

นำท่านเดินทางถึง บ่อเกลือสินเธาว์โบราณ เกลือภูเขาที่มีเพียงแห่งเดียวในโลก เดิมมีชื่อเรียกว่า “เมืองบ่อ” หมายถึง เมืองที่มีบ่อเกลือสินเธาว์อยู่ในพื้นที่ เป็นบ่อเกลือที่มีอายุกว่า 800 ปี ท่านจะได้สัมผัสวิถีชาวบ้าน ที่ประกอบอาชีพผลิตเกลือภูเขาแบบโบราณ ท่านสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเกลือได้ เช่น ดอกเกลือ เกลือแกง เกลือสปา ยาสีฟันเกลือ เป็นต้น (หมายเหตุ : งดสาธิตวิธีทำเกลือในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝนทำให้ไม่สามารถตากเกลือได้) 

นำท่านสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติที่ บ้านสะปัน ตั้งอยู่ในอำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ห่างจากบ่อเกลือภูเขาประมาณ  9 กิโลเมตร  เป็นชุมชนเล็กๆ แสนสงบ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของขุนเขา มีลำธารไหลผ่าน และในช่วงหน้าฝนฤดูทำนา ยังสามารถชมวิวทิวทัศน์ของนาข้าวเขียวขจีได้อีกด้วย เรียกได้ว่าหากแวะมาเที่ยวบ่อเกลือภูเขาขับรถเลยไปอีกเพียงไม่กี่นาทีก็จะถึงหมู่บ้านสะปัน เหมาะสำหรับมาพักผ่อน ปล่อยชีวิตให้เดินไปอย่างช้าๆ

จากนั้นนำท่านชม จุดชมวิว 1715 จุดแวะพักชมวิวที่สูงห่างจากระดับน้ำทะเล 1715 เมตร เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกได้ โดยมีระยะทางห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยภูคา 8 กิโลเมตร เส้นทาง ปัว – บ่อเกลือ มองเห็นภูเขาสลับซับซ้อน 

นำท่านเดินทางสู่ อำเภอปัว โดยใช้เส้นทางถนนหมายเลข 1256 ที่เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่เรียกกันว่า “ถนนลอยฟ้า” ซึ่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันแสนสงบ พร้อมสัมผัสกับธรรมชาติแบบเต็มอิ่มตลอดทั้งเส้นทาง อีกทั้งยังมีภูเขาและต้นไม้ปกคลุมทั้งพื้นที่ ซึ่งเห็นได้จากภาพมุมสูง

นำท่านเดินทางสู่ วัดภูเก็ต หมายถึง วัดบ้านเก็ตที่อยู่บนภู หรือ ดอย วัดภูเก็ต เป็นวัดที่มีภูมิทัศน์และวิวที่สวยงามมีลานชมวิวที่สามารถมองได้กว้างถึง 180 องศา สามารถเห็นวิวทุ่งนาแล้วมีเทือกเขาอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ด้านล่างมีแม่น้ำไหลผ่าน ทางวัดได้จัดให้เป็นเขตอภัยทาน สามารถให้อาหารจากลานข้างบน ผ่านท่อไหลลงไปให้กับฝูงปลาได้

เย็น

บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักแรม

ที่พัก: โรงแรม ฮัก ปัว โฮเทล หรือระดับเทียบเท่ากัน

เช้า

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเข้าสู่ ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ ร้านกาแฟชื่อดังของจังหวัดน่าน เป็นส่วนหนึ่งของร้าน ลำดวนผ้าทอ ร้านขายผ้าพื้นบ้านที่มีของที่ระลึกและผ้าทอไทลื้อ ผ้าทอน้ำไหล ลายโบราณต่างๆ สำหรับโซนร้านกาแฟสไตล์ของชุมชนชาวไทลื้อผสมล้านนา ภายในร้านมีเรือนไม้เก่าที่จัดโชว์เครื่องไม้เครื่องมือเก่าแก่ของชาวไทลื้อมาประดับตกแต่งสวยงาม จะมีมุมนั่งจิบกาแฟเป็นกระท่อมมุงด้วยหลังคาจาก สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ทุ่งนา สามารถเลือกนั่งชิลๆ บรรยากาศอันเงียบสงบได้ตามอัธยาศัย

นำท่านเข้าสู่ วัดศรีมงคล (ก๋ง) เป็นวัดเก่าแก่ที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2395  พระสงฆ์ที่มีชื่อที่สุดของวัดนี้คือ หลวงปู่ก๋ง ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจ ทั้งวิหารหลวงที่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันงดงาม โดยเลียนแบบการวาดของหนานบัวผัน จิตรกรชาวน่านเชื้อสายไทลื้อ ซึ่งวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วัดภูมินทร์และวัดหนองบัวของจังหวัดน่านโดยบริเวณลานชมวิว ทางวัดได้จัดทำเป็นซุ้มและจุดชมวิวให้ถ่ายภาพหลายจุด รวมถึงร้านกาแฟบรรยากาศไทยๆ ให้พักผ่อนหย่อนใจ มีทัศนียภาพที่งดงาม มองเห็นทุ่งนาเขียวขจี และทิวเขาของดอยภูคาเรียงรายสลับซับซ้อน

นำท่านเข้าสู่ อำเภอเมืองน่าน  มีสภาพภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขา มีภูเขาในเขตอำเภอบ่อเกลือ เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัด คือมีความสูงถึง 2,079 เมตร และมีดอยภูคาในเขตอำเภอปัว เป็นยอดเขาที่สำคัญของจังหวัด มีความสูง 1,980 เมตร ส่วนพื้นที่ราบจะอยู่บริเวณตอนกลางของจังหวัด และตามลุ่มน้ำต่าง ๆ แหล่งน้ำที่สำคัญของจังหวัดคือแม่น้ำน่าน ซึ่งมีต้นกำเนิดทางตอนเหนือของจังหวัด แล้วไหลลงไปยังเขื่อนสิริกิติ์ในจังหวัดอุตรดิตถ์ และบรรจบกับแม่น้ำปิงที่จังหวัดนครสวรรค์เป็นแม่น้ำเจ้าพระยา

นำท่านนั่งจิบชากาแฟที่ เฮือนฮังต่อ กาแฟน่าน ซึ่งเป็นร้านกาแฟที่รวมเอากาแฟจากแหล่งปลูกต่างๆของจังหวัดน่านมาไว้ที่นี่ เป็นร้านที่มีขนาดใหญ่บรรยากาศดี มีมุมให้ถ่ายรูป,มุมให้นั่งชิลๆเยอะ ให้ท่านสัมผัสกับบรรยากาศสบายๆ ร่มรื่น

นำท่านเดินทางสู่ พระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง พระธาตุประจำปีเกิด ปีเถาะ (ปีนักษัตรกระต่าย) เดิมเป็นวัดราษฎร์ ปัจจุบันเป็นพระอารามหลวง เป็นอนุสรณ์ของความรักและความสัมพันธ์ ระหว่างเมืองน่านกับเมืองสุโขทัยในอดีต จากพงศาวดารเมืองน่านกล่าวว่า พระยาการเมือง เจ้านครน่านได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจาก กรุงสุโขทัย (กระดูกข้อมือข้างซ้าย) มาประดิษฐานไว้ที่ดอยภูเพียงแช่แห้ง

นำท่านเดินทางสู่ วัดศรีพันตัน แห่งราชวงศ์ภูคา โดยพญาพันต้น เจ้าผู้ครองนครน่าน เป็นผู้สร้าง ซึ่งชื่อวัดตรงกับนามผู้สร้าง คือพญาพันต้น วิหารของวัดศรีพันอ้น มีความสวยงามเป็นสง่าด้วยสีทองเหลืองอร่าม และเป็นอีกวัดที่มีจิตรกรรมปูนปั้นที่สวยงาม พญานาคเจ็ดเศียรตั้งเด่นเป็นสง่าเฝ้าบันได หน้าวิหาร และภายในวิหารช่างชาวน่าน ได้เขียนภาพลายเส้นประวัติของพระพุทธเจ้าและประวัติการกำเนิดเมืองน่าน มันเป็นภาพเขียนลายเส้นลงสีธรรมชาติสวยงามและทรงคุณค่าอย่างยิ่ง 

จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ ซุ้มต้นลีลาวดีหรือต้นลั่นทม บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์แห่งชาติน่าน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน ตั้งอยู่ภายในคุ้มของอดีตเจ้าผู้ครองนครน่าน (หอคำ) ที่มีต้นลีลาวดีขึ้นเป็นแถวเรียงราย แผ่ขยายกิ่งก้าน โค้งเข้าหากันเป็นอุโมงค์

เที่ยง

บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร

นำท่านเดินทางสู่ วัดมิ่งเมือง ตั้งอยู่ที่ถนนสุริยพงศ์ เป็นที่ประดิษฐานเสาหลักเมืองของจังหวัดน่าน เดิมเป็นวัดร้าง มีเสาหลักเมืองที่เป็นท่อนซุงขนาดใหญ่สองคนโอบ ต่อมาเจ้าครองนครน่านสถาปนาวัดใหม่ตั้งชื่อว่า วัดมิ่งเมือง ตามชื่อที่เรียกเสาหลักเมืองว่า เสามิ่งเมือง ต่อมาปี 2527 ได้มีการรื้อถอนและสร้างอุโบสถหลังใหม่เป็น แบบล้านนาร่วมสมัยแบบในปัจจุบัน โดยตกแต่งลายปูนปั้นที่ผนังด้านนอกของพระอุโบสถ มีความสวยงามวิจิตรบรรจงมาก เป็นฝีมือตระกูลช่างเชียงแสน มีความวิจิตร งดงามมาก ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดงให้เห็นวิถีชีวิตของชาวเมืองน่าน ฝีมือช่างท้องถิ่นยุคปัจจุบัน และในบริเวณวัดยังเป็นที่ ประดิษฐานเสาหลักเมือง ซึ่งอยู่ในศาลาจตุรมุข ด้านหน้าพระอุโบสถ เสาหลักเมืองสูงประมาณ 3 เมตร ฐานประดับด้วยไม้แกะลวดลาย ลงรักปิดทอง ยอดเสาแกะสลักเป็นรูปพรหมพักตร์มีชื่อ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

นำท่านเดินทางสู่ วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร สร้างขึ้นโดยพญาภูเข่ง เจ้าผู้ครองนครเมืองน่าน อายุมากกว่า 600 ปี ประกอบด้วยวิหารขนาดใหญ่ ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบล้านนาไทย ภายในวัดยังประดิษฐานเจดีย์ช้างค้ำ ทรงลังกา สูงตระหง่านมีรูปปั้นรูปช้างครึ่งตัวประดับอยู่โดยรอบ ลักษณะเหมือนฐานรองรับไว้ด้านละ 6 เชือก รวมทั้งหมด 24 เชือก เป็นศิลปะที่น่านรับผ่านอาณาจักรสุโขทัย มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์

นำท่านเดินทางสู่ วัดภูมินทร์ เดิมชื่อ "วัดพรหมมินทร์" เป็นวัดที่แปลกกว่าวัดอื่นๆ คือ โบสถ์และวิหารสร้างเป็นอาคารหลังเดียวกันประตูไม้ทั้งสี่ทิศ แกะสลักลวดลายโดยช่างฝีมือล้านนาสวยงามมาก นอกจากนี้ฝาผนังยังแสดงถึงชีวิตและ วัฒนธรรมของยุคสมัยที่ผ่านมาตามพงศาวดารของเมืองน่าน ความงามของ พระอุโบสถจตุรมุข เป็นพระอุโบสถทรงจตุรมุข พระประธานจตุรพักตร์ นาคสะดุ้งขนาดใหญ่แห่แหนพระอุโบสถเทินไว้กลางลำตัวนาค พระอุโบสถจตุรมุขนี้กรมศิลปกรได้สันนิษฐานว่า เป็นพระอุโบสถจตุรมุขหลังแรกของ ประเทศไทยพระอุโบสถ ตรงใจกลางประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 4 องค์ หันพระพักตร์ออก ด้านประตูทั้งสี่ทิศ หันเบื้องพระปฤษฏางค์ ชนกันประทับ นั่งบนฐานชุกชี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ผู้ที่ไปชมความงามของ พระอุโบสถนี้ไม่ว่าจะเดินขึ้นบันไดทิศใด จะพบพระพักตร์ของพระพุทธรูปทุกด้าน  ภายในจะมีภาพจิตรกรรมฝาผนังชื่อดัง "ปู่ม่านย่าม่าน หรือ หนุ่มกระซิบ" ผลงานของหนานบัวผัน จิตรกรท้องถิ่นเชื้อสายไทลื้อ เป็นภาพชายหญิงคู่หนึ่งกำลังกระซิบอยู่ และเป็นภาพที่รู้จักกันในชื่อ "กระซิบรักบันลือโลก" และเป็นที่นิยมกันในหมู่นักท่องเที่ยวที่ต้องมาถ่ายรูปกับภาพจิตรกรรมฝาผนังนี้

เย็น

อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย ณ ถนนคนเดินเมืองน่าน

จากนั้นนำท่านเข้าสู่ ถนนคนเดินเมืองน่าน หรือ ถนนคนเดินกาดข่วงเมืองน่าน เปิดทุกวันศุกร์-อาทิตย์  ตั้งแต่ 17.00 – 22.00 น. ตั้งอยู่บนบนถนนผากอง ระหว่างลานข่วงเมือง หน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ไปถึงสามแยกถนนจัทรประโชติ ให้ท่านเลือกซื้ออาหารมากมาย มีทั้งอาหารพื้นเมือง ผักผลไม้ หรือเสื้อผ้าพื้นเมือง ของฝากของที่ระลึกแฮนด์เมดต่างๆ จากจังหวัดน่านของได้จากที่นี่ ในราคาย่อมเยา อิสระให้ท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักแรม

ที่พัก: โรงแรม น้ำทองน่าน หรือระดับเทียบเท่ากัน

เช้า

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ วัดพระธาตุเขาน้อย องค์พระธาตุตั้งอยู่บนยอดดอยเขาน้อย ซึ่งอยู่ด้านตะวันตกของตัวเมืองน่าน สร้างในสมัยเจ้าปู่แข็ง เมื่อปี พ.ศ. 2030 องค์พระธาตุเป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนทั้งองค์ เป็นศิลปะพม่าผสมล้านนา ภายในบรรจุพระเกศาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยพระเจ้าสุริยพงศ์ผริตเดชฯ ระหว่างปี พ.ศ. 2449-2454 โดยช่างชาวพม่า จากวัดพระธาตุเขาน้อย สามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบของตัวเมืองน่าน ปัจจุบันบริเวณลานชมทิวทัศน์ ประดิษฐานพระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร บนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร บนยอดพระเกศาทำจากทองคำหนัก 27 บาท

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางเข้าสู่ สนามบินน่าน เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ

12.40 น.

นำท่านเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดย สายการบิน ไทยสไมล์ (WE) เที่ยวบินที่ WE155

14.00 น.

เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ ... พร้อมความประทับใจ


การเดินทางในแต่ละครั้งจะต้องมีผู้โดยสารจำนวน 6 - 8  ท่าน ต่อ 1 คันรถตู้ ถ้าผู้โดยสารไม่ครบจำนวนดังกล่าว บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเลื่อนการเดินทาง หรือเปลี่ยนแปลงราคา ** ในกรณีที่ลูกค้าเดินทางไม่ถึง 6 ท่าน และประสงค์ที่จะเดินทาง ลูกค้าจะต้องชำระค่าส่วนต่างเพิ่มเติม กรุณาติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่อีกครั้ง **

หมายเหตุ: 

*ค่าทัวร์ข้างต้นเป็นราคาของตั๋วเครื่องบินเช็คเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2563* ราคาทัวร์ข้างต้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เนื่องจากราคาตั๋วเครื่องบินมีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา เมื่อออกตั๋วเครื่องบินแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เนื่องจากเป็นตั๋วราคาโปรโมชั่น

** ราคาทัวร์นี้สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยเท่านั้น นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 500 บาท/ท่าน **

  • น้ำหนักสัมภาระถือขึ้นเครื่อง Carry on 7 กิโลกรัม
  • ค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินไป-กลับพร้อมคณะ ที่นั่งเป็นไปตามการจัดสรรของสายการ
  • น้ำหนักกระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่อง 20 กก./ท่าน (กรณีเปลี่ยนเป็นสายการบินอื่น ผู้เดินทางต้องซื้อน้ำหนักกระเป๋าใต้ท้องเครื่องเอง)
  • ค่ารถบัสปรับอากาศตลอดเส้นทาง ตามรายการที่ระบุ (ยังไม่รวมทิปคนขับรถ)
  • ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการระบุ
  • ค่าอาหารตามที่รายการระบุ โดยทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ
  • ค่าโรงแรมที่พักระดับมาตราฐานตามที่รายการระบุ (พักห้องละ 2-3 ท่าน ต่อห้อง กรณีที่พัก 3 ท่าน เป็นการนอนเตียงเสริม 1 ท่าน) ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ ในการปรับเปลี่ยนโรงแรมที่พักไปเป็นเมืองใกล้เคียงแทนโดยอ้างอิงมาตรฐานคุณภาพและความเหมาะสมเดิมโดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ
  • ค่าจ้างไกด์นำเที่ยวคอยบริการ และ อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง 
  • ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์) กรณีต้องการซื้อประกันเพิ่มเพื่อคุ้มครองสุขภาพกรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่เป็นกรณีพิเศษ
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ อาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มพิเศษ, โทรศัพท์ – โทรสาร, อินเทอร์เน็ต, มินิบาร์, ซักรีด ที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ
  • ค่าใช้จ่ายอันเกิดจากความล่าช้าของ, อุบัติภัยทางธรรมชาติ, การประท้วง, การจลาจล ,การนัดหยุดงาน, การถูกปฏิเสธไม่ให้ออกและเข้าเมือง จากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งที่เมืองไทย และต่างประเทศซึ่งอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัทฯ
  • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
  • ค่าทิปคนขับรถและไกด์นำเที่ยว 400 บาท/ทริป/ลูกทัวร์ 1 ท่าน (บังคับตามระเบียบธรรมเนียม)
  • นักท่องเที่ยวต้องชำระเงินมัดจำค่าทัวร์ เป็นจำนวน 5,000 บาทต่อท่าน พร้อมสำเนาบัตรประชาชน เพื่อสำรองที่นั่ง
  • นักท่องเที่ยวต้องชำระเงินค่าบริการส่วนที่เหลือทั้งหมดก่อนวันเดินทางอย่างน้อย 21 วัน กรณีนักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่ไม่ชำระเงิน หรือชำระเงินไม่ครบภายในกำหนด รวมถึงกรณีเช็คของท่านถูกปฏิเสธการจ่ายเงินไม่ว่ากรณีใดๆ ให้ถือว่านักท่องเที่ยวสละสิทธิการเดินทางในทัวร์นั้นๆ
  • การติดต่อใดๆ กับทางบริษัทเช่น แฟกซ์ อีเมลล์ หรือจดหมายฯ ต้องทำในวันเวลาทำการของทางบริษัท ดังนี้ วันจันทร์ ถึงศุกร์ เวลา 9.00 น. – 18.00 น. และวันเสาร์ เวลา 9.00 น. – 14.00 น. นอกจากวันเวลาดังกล่าวและวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่รัฐบาลประกาศในปีนั้นๆถือว่าเป็นวันหยุดทำการของทางบริษัท
  • กรณีที่นักท่องเที่ยวต้องการขอยกเลิกการเดินทาง หรือเลื่อนการเดินทาง นักท่องเที่ยว (ผู้มีชื่อในเอกสารการจอง) จะต้องแฟกซ์ อีเมลล์ หรือเดินทางมาเซ็นเอกสารการยกเลิกที่บริษัทอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อแจ้งยกเลิกการจองกับทางบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษร ทางบริษัทไม่รับยกเลิกการจองผ่านทางโทรศัพท์ไม่ว่ากรณีใดๆ
  • กรณีนักท่องเที่ยวต้องการขอรับเงินค่าบริการคืน นักท่องเที่ยว (ผู้มีชื่อในเอกสารการจอง) จะต้องแฟกซ์ อีเมลล์ หรือเดินทางมาเซ็นเอกสารการขอรับเงินคืนที่บริษัทอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อทำเรื่องขอรับเงินค่าบริการคืน โดยแนบหนังสือมอบอำนาจพร้อมหลักฐานประกอบการมอบอำนาจ หลักฐานการชำระเงินค่าบริการต่างๆ และหน้าสมุดบัญชีธนาคารที่ต้องการให้นำเงินเข้าให้ครบถ้วน โดยมีเงื่อนไขการคืนเงินค่าบริการดังนี้
  • ยกเลิกก่อนวันเดินทาง 30 วัน ขึ้นไป คืนเงินค่าทัวร์เต็มจำนวน ของค่าทัวร์ที่ชำระแล้ว และหักค่าใช้จ่ายที่จ่ายจริง ได้แก่ ค่ายานพาหนะ ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว ค่าบริการ หรือค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่นๆ ** ในกรณีที่วันเดินทางตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ ต้องยกเลิกการเดินทางไม่น้อยกว่า 30 วัน **
  • ยกเลิกก่อนวันเดินทาง 15 - 29 วัน คืนเงินค่าทัวร์ 50% และหักค่าใช้จ่ายที่จ่ายจริง ได้แก่ ค่ายานพาหนะ ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว ค่าบริการ หรือค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่นๆ 
  • ยกเลิกก่อนวันเดินทาง 0 - 14 วัน ไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ชำระแล้วทั้งหมด
  • ทัวร์นี้สำหรับผู้มีวัตถุประสงค์เพื่อการท่องเที่ยวเท่านั้น
  • ทัวร์นี้เป็นทัวร์แบบเหมา หากท่านไม่ได้ร่วมเดินทางหรือใช้บริการตามที่ระบุไว้ในรายการไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด หรือถูกปฏิเสธการเข้า-ออกเมืองด้วยเหตุผลใดๆ ทางบริษัทจะไม่คืนเงินค่าบริการไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดให้แก่ท่าน
  • ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการการเดินทางตามความเหมาะสม เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ภูมิอากาศ และเวลา ณ วันที่เดินทางจริงของประเทศที่เดินทาง ทั้งนี้ บริษัทจะคำนึงถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นสำคัญ
  • ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อความเสียหายหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวที่มิได้เกิดจากความผิดของทางบริษัท เช่น ภัยธรรมชาติ การจลาจล การนัดหยุดงาน การปฏิวัติ  อุบัติเหตุ ความเจ็บป่วย ความสูญหายหรือเสียหายของสัมภาระ ความล่าช้า เปลี่ยนแปลง หรือการบริการของสายการบิน เหตุสุดวิสัยอื่น เป็นต้น
  • มัคคุเทศก์ พนักงาน หรือตัวแทนของทางบริษัท ไม่มีอำนาจในการให้คำสัญญาใดๆ แทนบริษัท เว้นแต่มีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของบริษัทกำกับเท่านั้น